น้ำยาล้างแผล
10 Dec, 2022 / By
salacrm01
น้ำยาล้างแผล
การหายของแผล
ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับน้ำยาล้างแผล เราเคยรู้หรือไม่ เวลาเกิดแผล ไม่ว่าจะเกิดจากการได้รับจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น หกล้ม โดนของมีคม แผลถลอก จนมีเลือดออกได้ ร่างกายเรามีกระบวนการซ่อมแซมซ่อมแซมบาดแผลที่เกิดขึ้นเบื่องต้นการหายของแผลนั้นแบ่งเป็นระยะต่าง ๆ ได้ 4 ระยะดังนี้
- ระยะที่ 1 Hemostasis Phase (ระยะหยุดเลือดออก) ระยะนี้เส้นเลือดจะทำการหดตัว เกิดการกระตุ้น การทำงานของเกล็ดเลือด และ สารช่วยการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดหยุดไหล
- ระยะที่ 2 Inflammatory Phase (ระยะการอักเสบ) ระยะนี้เป็นระยะที่ทำให้เกิดการอักเสบ โดยที่ร่างกายพยายามทำลายเชื้อโรคที่รุกล้ำเข้ามากับแผล จึงทำให้เกิดการบวม แดง ร้อน เพราะเส้นเลือดจำเป็นต้องขยายตัว เพื่อส่งเม็ดเลือดขาวที่เปรียบเสมือนทหารของร่างกายเข้ามาจัดการกับสิ่งแปลกปลอม และเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว
- ระยะที่ 3 Proliferation Phase (ระยะสร้างเนื้อเยื่อ) ระยะนี้จะเกิดการสร้างเนื้อเยื่อทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียไป เพื่อปิดแผลให้สนิท ซึ่งระยะนี้อาศัยความชุ่มชื้น และสารอาหารที่เพียงพอต่อการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อให้แผลปิดได้เร็ว โดยการปิดของแผลนั้นจะเริ่มจากขอบแผลไปเรื่อย ๆ
- ระยะที่ 4 Remodeling Phase (ระยะปรับโครงสร้าง) ระยะนี้เนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นมาในระยะที่ 3 จะได้รับการปรับปรุงโครงสร้างให้เหมาะสม เช่น แผลเริ่มแห้ง รอยแผลเป็นนิ่มลง แบนราบ และสีจางลง ดังที่ควรจะเป็นซึ่งต้องใช้ เวลาค่อนข้างนาน และเป็นช่วงที่แผลเป็นนั้นลดความหนาตัวลงมา
อย่างไรก็ตามกระบวนการซ่อมแซมแผลของร่างกาย อาจะมีปัจจัยที่รบกวนและเป็นอุปสรรคในการหายของแผล ดังนี้
สิ่งที่ขัดขวางการหายของแผล
- ระยะหยุดเลือดออกมีปัญหา คือ เลือดไม่แข็งตัว ทำให้เลือดไหลอยู่เรื่อย ๆ โดยพบได้ในผู้ที่รับประทานยา ต้านเกล็ดเลือด เกล็ดเลือดมีปัญหา ผู้ที่มีภาวะสร้างสารช่วยการแข็งตัวของเลือดไม่ได้ หรือผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ รวมไปถึงผู้ป่วยโรคฮีโมฟิลเลีย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ขัดขวางของกระบวนการหายของแผลในระยะที่ 1
- ระยะการอักเสบยาวนาน เนื่องจากไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคเองได้หมด ทำให้ ปวด บวม แดง ร้อน มากขึ้นเรื่อย ๆ ระยะนี้ค่อนข้างพบบ่อยที่สุด
- ระยะสร้างเนื้อเยื่อมีปัญหา เนื่องจากปัจจัยในการสร้างเนื้อเยื่อนั้น ต้องอาศัยสารอาหารในการส้รางเนื้อเยื่อ ดังนั้นในผู้ป่วยที่เส้นเลือดมีปัญหา การขาดความชุ่มชื้นของแผล การมีเศษไม้ ก้อนหิน หรือแม้กระทั้งการมีเลือดคลั่งและหนอง ก็อาจรบกวนกระบวนการหายของแผลในระยะที่ 3 ได้
- ระยะปรับปรุงโครงสร้างมีปัญหา ระยะนี้ส่วนใหญ่แผลมีการปิดเรียบร้อย แต่ความแข็งแรง และการทำหน้าที่ของบริเวณผิวหนังรอบแผลอาจจะมีปัญหาได้จากสารอาหารไม่เพียงพอ หรือการลำเลียงสารไปบริเวณแผลโดยเส้นเลือดไม่ปกติ อาจจะทำให้ผิวหนังที่เป็นแผลเสี่ยงต่อการเกิดแผลซ้ำได้
น้ำยาล้างแผลแต่ละชนิด
มาทำความรู้จักกับน้ำยาล้างแผลกัน เป้าหมายของการล้างแผล คือ การกำจัดเชื้อโรค และสร้างสภาวะให้เหมาะสมกับการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อรักษาแผล
- Alcohol (แอลกอฮอล์) ในรูปแบบ ความเข้มข้น 70% Ethyl Alcohol หรือ Isopropyl Alcohol สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ไม่ควรนำไปล้างแผลสดโดยตรง เพราะมีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อมาก ๆ จึงแนะนำให้ทาบริเวณรอบ ๆ แผลเท่านั้น
- Hydrogen Peroxide (ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์) ในรูปแบบ ความเข้มข้น 3% Hydrogen Peroxide ฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน กัดกร่อนเนื้อเยื่อเป็นหลัก เทแล้วมีฟองฟู่ ใช้ในแผลเปื่อย มีเนื้อตาย ซึ่งมีความระคายเคืองต่อเนื้อเยื้อ รองลงมา
- Povidone iodine (โพรวิโดนไอโอดีน) ในรูปแบบ ความเข้มข้น 10% Povidone iodine ฆ่าเชื้อโรคได้ ทำลายเนื้อเยื่อน้อยมาก จึงเหมาะสำหรับทาบริเวณเนื้อเยื่อแผลสดได้ ไม่ระคายเคืองมาก
- Normal Saline (น้ำเกลือล้างแผล) ในรูปแบบ ความเข้มข้น 0.9% NaCl (Sodium chloride) ไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ ไม่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อแผลสด เนื่องจากมีความสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกายช่วยรักษาสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อ และเซลล์เม็ดเลือด
การใช้น้ำยาล้างแผลให้เหมาะสม
คนสมัยก่อนเชื่อว่า ถ้าใช้น้ำยางล้างแผลที่ยิ่งแสบ ๆ ยิ่งดี เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการใช้น้ำยาล้างแผลที่มีฤทธิ์ทำลายเนื้อเยื่อนั้น แม้จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ก็มีผลทำลายเนื้อเยื่อจึงทำให้แผลหายได้ช้า ดังนั้นเป้าหมายของการล้างแผลคือ ล้างสิ่งสกปรกออกไปให้ได้มากที่สุด ทำลายเชื้อโรค โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ เป็นวิธีที่ถูกต้อง และทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- น้ำเกลือล้างแผลเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในการชะล้างสิ่งสกปรกออก เนื่องจากไม่ระคายเคืองต่อแผลสด
- น้ำยาล้างแผลที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ทำลายเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดระคายเคืองมากอย่าง เช่น แอลกอฮอล์ ทิงเจอร์ไอโอดีน ไฮโดรเจนเพอร์อ๊อกไซด์ ไม่เหมาะสำหรับล้างหรือทาบริเวณ แผลสดโดยตรงแต่จะเหมาะสำหรับเช็ดรอบแผลเพื่อทำลายเชื้อโรคแบคทีเรียรอบ ๆ
- น้ำยาล้างแผลที่ทำลายเนื้อเยื่อน้อยที่สุด ได้แก่ 10% Povidone iodine มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อโรคแบคทีเรีย เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทาลงในแผลสดได้ โดยไม่แสบระคายเคืองมาก
เรียบเรียงโดย
ภก.สุรพล พนมร่วมมิตร
อ้างอิง
1.อัจฉริย สาโรวาท. WOUND HEALING AND WOUND CARE . [อินเทอร์เน็ต]. เข้าถึงได้จาก : https://med.mahidol.ac.th/surgery/sites/default/files/public/pdf/Wound%20%20Healing%20abd%20Wound%20Care.pdf. [เข้าถึงเมื่อ 22 ก.ค. 2565]
2.ธีรวัฒน์ สุวรรณี. ล้างแผลไม่เจ็บและหายเร็ว [อินเทอร์เน็ต[S47] ]. เข้าถึงได้จาก : http://www.idoctorhouse.com/firstaid/ล้างแผลไม่เจ็บและหายเร็ว/. [เข้าถึงเมื่อ 24 ก.ค. 2565]