เช็คสัญญาณเตือน....ช่องคลอดผิดปกติ
14 Dec, 2022 / By
salacrm01
เช็คสัญญาณเตือน....ช่องคลอดผิดปกติ
ช่องคลอด คือ อวัยวะสำคัญที่ผู้หญิงควรใส่ใจและดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะความผิดปกติเพียงเล็กน้อยที่เกิดขึ้น อาจทำให้ผู้หญิงเราสูญเสียความมั่นใจหรืออาจทำให้เกิดโรคตามมาได้ ดังนั้นควรรู้จักวิธีการสังเกตความผิดปกติของช่องคลอดและรู้จักวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ห่างไกลโรค
อาการตกขาวเกิดจากอะไร
ตกขาวปกติ หรือระดูขาวธรรมดา เป็นของเหลวที่ขับออกจากช่องคลอด เป็นอาการของผู้หญิงที่สามารถเกิดได้ตามปกติ ในสตรีวัยเจริญพันธุ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามรอบประจำเดือน ซึ่งส่งผลต่อลักษณะของของเหลวที่สร้างมาจากอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์ โดยตกขาวที่ปกติสามารถสังเกตได้โดย ตกขาวจะไม่มีกลิ่น ไม่ก่อให้เกิดอาการคัน และไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย อย่างเช่น มีไข้ ปวดท้อง หรือขัดเบา ซึ่งจะมีปริมาณเล็กน้อยเพื่อให้ภายในช่องคลอดมีความชุ่มชื้น และอาจจะมีกลิ่นเล็กน้อยตามลักษณะกลิ่นตัวของแต่ละคน แต่ในบางครั้งตกขาวอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติได้เช่นกัน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม
ตกขาวผิดปกติ จะมีปริมาณตกขาวมากขึ้นผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด โดยมีลักษณะ สี และกลิ่นที่เปลี่ยนไปจากเดิม จากปกติที่มีความใสไม่มีสีก็เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีเขียว ข้นเป็นก้อน เป็นมูกเลือด มีหนอง มีฟองปนออกมาจำนวนมาก หรือมีกลิ่นเหม็นคล้ายปลาเน่า อีกทั้งยังมีอาการคันและปวดแสบปวดร้อนที่บริเวณปากช่องคลอด รวมถึงมีไข้ รู้สึกปวดท้องน้อย ขัดเบา และมีอาการเจ็บเวลาที่มีเพศสัมพันธ์
สีของตกขาวบอกอะไร? ตกขาวสีไหนปกติ สีไหนที่บอกว่าเรากำลังมีปัญหา!
ซึ่งสีของตกขาวอาจบอกได้ว่าร่างกายของเรากำลังเกิดสิ่งผิดปกติบางอย่าง
- ตกขาวสีขาว เป็นน้ำหรือเมือกใส
เป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือนที่เป็นผลมาจากฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในช่วงรอบเดือนที่หลั่งออกมาเพื่อหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้นกับช่องคลอดจะมีปริมาณตกขาวมากเป็นของเหลวใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่คัน แต่ถ้ามีอาการตกขาวที่ผิดปกติจะมีสีที่แตกต่างไปจากเดิม มีกลิ่น ลักษณะเป็นก้อนหนา มีฟอง รวมถึงมีอาการคันร่วมด้วย อาจจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรืออาการอักเสบภายในช่องคลอดก็ได้
- ตกขาวเป็นก้อนสีขาว
เกิดจากการติดเชื้อราที่มีชื่อว่า Candida albicans ส่งผลให้ตกขาวมีลักษณะเป็นก้อนสีขาวข้นหรือสีเหลืองขาวคล้ายนมบูด มีกลิ่นเหม็นแต่ไม่คาว จึงทำให้ปัสสาวะแสบขัดหรือรู้สึกแสบคันในบางครั้ง ซึ่งมักจะเกิดกับผู้ป่วยที่มีภูมิต้านทานต่ำการสวนล้างช่องคลอดเป็นประจำ การรับประทานอาหารของหมักดองต่าง ๆ การสวมเสื้อผ้าที่อับชื้น หรือใช้ยาปฏิชีวนะเป็น เวลานาน ๆ
- ตกขาวสีเขียว
แสดงถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ส่งผลให้ตกขาวมีสีเขียว หรือสีเหลืองปนเขียว มีฟอง และมีกลิ่นคาว พบอาการเจ็บและระคายเคืองช่องคลอดได้บ่อย ช่องคลอดมักจะบวมแดงแสดงถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวสีชมพู
เกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งมักพบหลังคลอด บางครั้งเรียกว่า “น้ำคาวปลา” หรืออาจเป็นสัญญาณของการจะมีรอบประจำเดือน ตกขาวสีชมพู หรือสีชมพูจาง ๆ พบได้มากในหญิงหลังคลอดบุตรเกิดจากการลอกหลุดของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งมักพบหลังคลอด บางครั้งเรียกว่า “น้ำคาวปลา” หรืออาจเป็นสัญญาณของการจะมีรอบประจำเดือน
- ตกขาวสีเทา
แสดงถึงการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ส่งผลให้มีกลิ่นเหม็นคล้ายกับกลิ่นปลาเค็ม เกิดการอักเสบที่ช่องคลอดและปากมดลูก ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยมักจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น อาการคัน หรืออาจมีรอยแดงบริเวณปากช่องคลอด
- ตกขาวสีน้ำตาล
ตกขาวสีน้ำตาล หรือตกขาวแบบมีเลือดปน ส่วนใหญ่มักเกิดจากประจำเดือนที่ตกค้างที่มาช้าหรือมาไม่ตรงรอบ มีลักษณะเป็นเลือดสีน้ำตาลที่ปริมาณไม่มากนัก โดยอาจจะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้เลือดออกจากการตั้งครรภ์นอกมดลูกก็อาจจะทำให้มีอาการเลือดออกกระปริบกระปรอย และมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย รวมถึงอาจเกิดจากการติดเชื้อที่ช่องคลอดหรือปากมดลูก จึงทำให้ตกขาวมีกลิ่นเหม็นและมีสีน้ำตาลปนจากเลือดที่ค้าง แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอย่างเช่น การติดเชื้อที่บริเวณปากมดลูก เลือดออกจากการตกไข่
หากพบความผิดปกติของตกขาวเกิดขึ้นควรได้รับการดูแลจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อรับการรักษา ส่วนวิธีดูแลป้องกันตนเองมีวิธีดังนี้
1.ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ
2.ล้างทำความสะอาดอวัยวะเฉพาะ ภายนอกเท่านั้น ไม่ควรสวนล้างเข้าไปข้างใน ช่องคลอด และควรล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง
3.หลังจากล้างน้ำแล้ว ควรซับให้แห้ง ซับจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ควรวกกลับมาด้านหน้าอีก
4.ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการอับชื้น เช่น ใส่กางเกงในที่ตัวเล็กมากหรือผ้าหนา
ใส่กางเกงในแล้วทับด้วยกางเกงกระชับสัดส่วน ถุงน่อง เพราะความอบอ้าวจะทำให้เกิดตกขาว ควรใส่ชั้นในที่สบายตัวและทำให้อากาศถ่ายเทมากที่สุด
5.อย่าปล่อยให้เป้ากางเกงในเปียก พยายามซับให้แห้งทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ
6.เมื่อเป็นประจำเดือนให้เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ 3-4 ชั่วโมง และล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ
7.การดูแลขน หากไม่จำเป็นอย่าโกนหรือแว็กซ์ขนออก เนื่องจากจะทำให้ผิวบางและแพ้น้ำยาแว็กซ์ได้ สามารถดูแลได้ง่าย ๆ โดยการล็มเพื่อลดการอับชื้น
8.ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกันผู้อื่น และซักทำความสะอาดผ้าเช็ดตัวเป็นประจำ
9.ทำความสะอาดฝารองนั่งชักโครกทุกครั้งก่อนใช้ห้องน้ำ
นอกจากการดูแลเบื้องต้นแล้ว การตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี ก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้ห่างไกลจากโรคร้ายได้เช่นกัน
ตกขาวอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน แต่ถ้าหากมีอาการผิดปกติก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะเป็นสัญญาณเตือนให้เราระวังเกี่ยวกับสุขอนามัยและหมั่นสังเกตตัวเองมากขึ้นนั่นเอง
เรียบเรียงโดย
ภญ.เฉลิมขวัญ แสงศรีมณีวงศ์
อ้างอิง
1.จีรนันท์ วนวรรณนาวิน. ตกขาวเยอะผิดปกติ อันตรายไหม? [อินเทอร์เน็ต]. ศิครินทร์ [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ย. 2565]. เข้าถึงได้จาก : https://www.sikarin.com
2.งานการพยาบาลผู้ป่วยนอกแผนกนรีเวช. เรื่องรอบรู้ในสตรี [อินเทอร์เน็ต]. ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี; 2565 [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ย. 2565]. เข้าถึงได้จาก : http://www.med.swu.ac.th
3.ธาริณี ลำลึก. 5 สัญญาณเตือน! ที่บอกว่าช่องคลอดของคุณกำลังผิดปกติ [อินเทอร์เน็ต]. พญาไทย; 2565 [เข้าถึงเมื่อ 10 ก.ย. 2565]. เข้าถึงได้จาก : https://www.phyathai.com