เล็บขบ คืออะไร

       เล็บขบคือ ขอบเล็บงอกเบียดเนื้อข้างบริเวณเล็บ ทำให้มีอาการเจ็บ บวม แดงอักเสบ บางครั้งอาจมีการติดเชื้อได้ พบได้บ่อยที่นิ้วหัวแม่เท้า และมักพบในวัยรุ่น

เล็บขบเกิดจาก

1. เล็บผิดรูป มักเป็นตั้งแต่กำเนิด มักจะเป็นเล็บที่กว้างกว่าพื้นเล็บ และขอบเล็บมีลักษณะโค้งจิกเนื้อมากกว่าปกติ
2. ในช่วงแรกเล็บที่ขบ จะทำให้เนื้อข้าง ๆ เล็บ บวม แข็ง และกดเจ็บ แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ไม่ดูแลให้หาย   อาจมีอาการบวมแดงและติดเชื้อเป็นหนองได้
3. อุบัติเหตุ เช่นของหล่นใส่นิ้วเท้า หรือเดินเตะของแข็ง เช่นเดินเตะโต๊ะ
4. ใส่รองเท้าที่ไม่พอดี  คือหน้าแคบเกินไป (ทรงรองเท้าไม่เหมาะกับรูปเท้าของเรา) กับรองเท้าที่สั้นเกินไป (เลือกรองเท้าผิดเบอร์ หรือเท้าโตขึ้นในเด็ก)
5. ตัดเล็บผิดวิธี ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุหลักในการเกิดเล็บขบ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเล็บขบ

1. เล็บขบสามารถเป็นได้กับนิ้วทุกนิ้ว แต่ส่วนใหญ่จะเกิดที่นิ้วหัวแม่เท้า และมักเกิดกับวัยรุ่น
2. นักกีฬาที่พบว่าเป็นเล็บขบบ่อย คือนักกีฬาที่ต้องเตะ เช่น นักฟุตบอล นักมวยไทย
3. ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานหรือโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เลือดมาเลี้ยงปลายเท้าได้ไม่ดี ยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหาจากเล็บขบมากขึ้น

การตัดเล็บเท้าที่ถูกวิธี

1. ใช้กรรไกรตัดเล็บที่สะอาด คม
2. ควรใช้กรรไกรตัดเล็บเท้าโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีลักษณะส่วนที่ตัดเล็บตรง ไม่โค้ง
3. ควรเลือกกรรไกรตัดเล็บที่อันใหญ่ เนื่องจากที่ตัดเล็บมีความโค้งไม่มากเกินไป
4. ไม่ตัดเล็บสั้นเกินไป

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

       ผู้ที่มีเล็บขบควรได้รับการรักษาทันทีที่สังเกตว่าเป็น ถ้าดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องพบแพทย์ และไม่ต้องรับการถอดเล็บ

1. แช่น้ำอุ่นวันละ 3-4 ครั้งหรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้าเย็น หลังแช่น้ำอุ่นให้เช็ดเท้าให้แห้งโดยเฉพาะบริเวณซอกเล็บ
2. พยายามทำให้เท้าแห้งระหว่างวัน เช่น ถอดรองเท้าขณะนั่งทำงาน ลดการอับชื้น
3. เลือกรองเท้าที่ขนาดพอดี ทั้งทรงรองเท้า (หน้าไม่แคบเกินไป) และขนาดรองเท้า (ไซส์พอดี)
4. ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกรองเท้าที่เปิดหน้าเท้า เช่นรองเท้าแตะ
5. ใช้ยาบรรเทาอาการปวดลดอักเสบ เมื่อมีอาการปวด โดยปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับยา ถ้ามีอาการปวด โดยต้องปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับยา

การป้องกันการเป็นเล็บขบ

1. ตัดเล็บเท้าให้ตรง ไม่โค้ง
2. ไม่ตัดเล็บเท้าสั้นเกินไป เนื่องจากเล็บที่สั้นเกินไป เมื่อเราเดินลงน้ำหนัก พื้นรองเท้าจะดันให้เนื้อที่ปลายนิ้วเท้าขึ้นมาเบียดและบาดเล็บได้
3. เลือกรองเท้าที่ขนาดพอดี ความยาวพอดี ไม่สั้นเกินไป
4. ถ้าเป็นคนที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้รับความรู้สึกที่เท้าได้ลดลง เช่นมีอาการชาเท้า ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเลือกรองเท้าและวัดเท้าให้เนื่องจากบางทีจะไม่รู้สึกว่ารองเท้าคับเกินไป
5. ควรเลือกใส่รองเท้าที่เปิดหน้าเท้า เช่นรองเท้าแตะ
6. ควรสำรวจเท้าตัวเองเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเบาหวาน ซึ่งจะมีปัญหาต่าง ๆ ที่เท้าได้ง่าย

เรียบเรียงโดย

ภญ.ปาณิสรา สุขศิริพัฒนพงศ์

อ้างอิง

1.นายแพทย์ศุภโชค รัศมีมงคล. เล็บขบ เป็นหนอง เนื้อปูด รักษาอย่างไร. [เข้าถึงเมื่อ 23 พฤษภาคม 2564]. เข้าถึงได้ จาก:https://supachokclinic.com/ingrown-toenail/

2.American Academy of Orthopaedic Surgeons. [Internet]. 2012 [cited 2021 Sep]. Available from: www.Ingrown Toenail - OrthoInfo - AAOS