หน้าหลัก > รายการ > Lecitin บำรุงตับได้จริงหรือ
Lecitin บำรุงตับได้จริงหรือ
Lecitin บำรุงตับได้จริงหรือ
22 Feb, 2023 / By salacrm01
Images/Blog/qPc4VHNx-l2.png

Lecitin บำรุงตับได้จริงหรือ

        เลซิติน (Lecithin) คือ สารประกอบระหว่างกรดไขมันจำเป็น ฟอสฟอรัส และวิตามินบี 2 ตัว ได้แก่ โคลีน(Choline) และอินอสซิตอล (Inositol) สามารถพบเลซิตินในร่างกายในอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ตับ ไต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมอง มีเลซิตินเป็นส่วนประกอบมากถึง 30% ซึ่งเลซิตินจำเป็นต่อการควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ภายในเซลล์ ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เลซิติน จะพบได้จาก

        เลซิติน (Lecithin) พบได้ตามธรรมชาติจาก 2 แหล่ง ที่สำคัญคือ ร่างกายมนุษย์ สามารถผลิต 'เลซิติน' ขึ้นได้เองที่ 'ตับ' สารตั้งต้นที่ร่างกายใช้ผลิตเลซิติน เช่น กรดไขมันจำเป็น วิตามินบี และสารอาหารสำคัญอื่น ๆ  หากร่างกายได้รับสารอาหารต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ร่างกายขาดเลซิตินได้

        แหล่งธรรมชาติสามารถพบเลซิติน ได้ทั้งในพืชและสัตว์ โดยจะพบมากในไข่แดง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสง จมูกข้าวสาลี เป็นต้น แต่อาหารเหล่านี้ก็จะให้ไขมันโคเลสเตอรอลสูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงแนะนำให้ทานเลซิตินที่สกัดได้จากถั่วเหลืองมากกว่าเนื่องจากเป็นแหล่งที่ดีในการสกัดเลซิติน เพราะไม่มีไขมันโคเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยโปรตีนที่มีคุณค่าต่อร่างกายมากกว่า โดยร่างกายของเราต้องการเลซิตินวันละ 6 กรัม ส่วน Choline ร่างกายต้องการ วันละ 0.6-1 กรัม ซึ่งในอดีตไม่ค่อยพบว่ามีการขาดสารเลซิติน แต่ปัจจุบันคนนิยมทานอาหารที่มีไขมันต่ำ จึงอาจจะทำให้เกิดการขาดสารเลซิตินได้

ประโยชน์ของเลซิติน (Lecithin) ในการบรรเทาโรคตับชนิดต่าง ๆ

       สารที่พบในเลซิติน (Lecithin) คือ ฟอสฟาทิดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) เป็นสารที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ตับ นอกจากนี้ฟอสฟาทิดิลโคลีนยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติจากยา แอลกอฮอล์ สารเคมี สารพิษต่าง ๆ ที่จะทำลายตับ ดังนั้นฟอสฟาทิดิลโคลีนในเลซิตินจึงมีบทบาทในการช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับได้

  1. โรคตับจากภาวะไขมันพอกตับ

      พบว่าหากขาดโคลีนจะทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้ โคลีน (Choline) จะมีผลในการเร่งการเผาผลาญไขมันที่ตับ ทำให้ไขมันถูกนำไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ภาวะไขมันพอกตับก็จะลดลง นอกจากนั้นเลซิตินมีผลในการช่วยลดไขมันในเลือด โดยเฉพาะไขมันโคเลสเตอรอลที่เป็นตัวการสำคัญในการทำให้เกิดภาวะไขมันพอกตับ ดังนั้นการรับประทานเลซิติน (Lecithin) จะทำให้ลดโอกาสเกิดภาวะไขมันพอกตับได้

  1.  โรคตับจากแอลกอฮอล์
          จากรายงานทางการแพทย์ของ Lieber และคณะในปี ค.ศ. 2003 มีผู้ป่วยเข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 789 ราย โดยเป็นผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หนักถึงวันละ 16 drinks (1 drink = 14 g แอลกอฮอล์) และตรวจพบว่าตับมีการถูกทำลาย (Liver injury) ให้ได้รับฟอสฟาทิดิลโคลีน ติดต่อกัน 24 เดือน พบว่าผลการตรวจชิ้นเนื้อตับ ของผู้ป่วยโรคตับจากแอลกอฮอล์ที่ได้รับฟอสฟาทิดิลโคลีน มีแนวโน้มที่ดีและค่าเอมไซม์ของตับดีขึ้น
  2.  โรคตับจากยา
           จากการศึกษาพบว่ามีการศึกษาการป้องกันตับอักเสบในผู้ป่วยที่รับยาต้านวัณโรค จำนวนคนไข้ 340 คน โดยได้รับยาต้านวัณโรคร่วมกับฟอสฟาทิดิลโคลีน 900 มิลลิกรัมต่อวัน เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับฟอสฟาทิดิลโคลีน พบว่ากลุ่มคนไข้ที่ได้รับยาต้านวัณโรคร่วมกับฟอสฟาทิดิลโคลีน ไม่พบค่าความผิดปกติของค่าเอมไซม์ของตับ และกลุ่มที่ไม่ได้รับฟอสฟาทิดิลโคลีน กลับพบว่าค่าเอมไซม์ของตับสูงขึ้นกว่าปกติ

ปริมาณเลซิตินที่แนะนำต่อวัน

        บำรุงตับ ลดภาวะไขมันพอกตับ  รับประทานวันละ 1,200-3,600 มิลลิกรัม หลังอาหาร

ข้อแนะนำและข้อควรปฏิบัติ

        หากรับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่ อยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้ร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอ โดยที่ไม่ต้องรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์อาหารเสริม แต่อย่างใด แต่หากมีความจำเป็นต้องรับประทานเลซิติน ในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรเลือกเลซิตินจากพืชเพราะเลซิตินจากพืช มีส่วนประกอบของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว หากซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเลซิตินจากแหล่งวัตถุดิบที่เป็นสัตว์ หรือไข่แดงอาจได้รับกรด ไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง จะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับโคเลสเตอรอล

ข้อควรระวัง และข้อห้ามใช้

  • ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร
  • แนะนำให้หลีกเลี่ยงในผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองแบบรุนแรง เช่น ผื่นขึ้นมาก ผิวหนัง/เยื่อบุหลุดลอก ใบหน้าและลิ้นมีอาการบวม คอบวมจนหายใจลำบาก

อาการข้างเคียง

  • ภาวะการได้รับเลซิตินมากเกินไปอาจมีผลข้างเคียง คือ คลื่นไส้ อาเจียน น้ำลายหลั่งออกมาก เบื่ออาหาร เหงื่อออกมาก ท้องเสีย เป็นต้น

เรียบเรียงโดย

ภญ.วรินทร์พร ชนินทรวิโรจน์

อ้างอิง

1. megawecare. เลซิติน (Lecithin) ประโยชน์เพื่อสุขภาพของคุณ [internet].2022[cited 2022 Aug11].Available from: https://www.megawecare.co.th/content/4643/lecithin-benefits-of-your-health-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%99

2. Charles S Lieber.Relationships between nutrition, alcohol use, and liver disease [internet].2003[cited 2022 Aug11].Available from: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15535450/

3. Charles S.Lieber.Alcoholic fatty liver: its pathogenesis and mechanism of progression to inflammation and fibrosis[internet].2004[cited 2022 Aug11].Available from: https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0741832904001569?via%3Dihub

4. Charles S Lieber 1, David G Weiss.Veterans Affairs Cooperative Study of polyenylphosphatidylcholine in alcoholic liver disease[internet].2003[cited 2022 Aug11].Available from: https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/14634492/

5. International journal of infectious diseases. Efficacy of multivitamins containing phosphatidyl choline in the mananegment of hepatotoxicity from antiretroviral and/or antituberculous drugs[internet].2010[cited 2022 Aug11].Available from: https://www.ijidonline.com/article/S1201-9712(10)02073-4/fulltext

6. Giffarine.ตอบคำถาม เลซิติน ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเลซิติน[internet].2019[cited 2022 Aug11].Available from:

 https://welovegiff.com/ตอบคำถาม-เลซิติน-ทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับเลซิติน

 
Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป
ร้านค้าออนไลน์
© 2006-2024
Vevo Systems Co., Ltd.